..

..

บอกบุญ สร้างศาลาวัด อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

Profile โค้ชคม

Profile โค้ชคม

แนะนำ หลักสูตร การพัฒนาตนเองและทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558

"คุณค่า" อันยิ่งใหญ่ของมนุษย์..ก็คือ การได้มีโอกาสยืนอยู่บน.."จุด"..ที่เหมาะสม

..
"คุณค่า" อันยิ่งใหญ่ของมนุษย์..ก็คือ
การได้มีโอกาสยืนอยู่บน.."จุด"..ที่เหมาะสม
จุดยืนที่เหมาะสม อยู่ที่ .. "คุณ" .. รู้ว่า ..
"ตัวเองเกิดมาเพื่ออะไร.."
..
ชีวิตคุณ มีคุณค่า ในแบบของคุณ เป็นปัจเจกชน
เพียงแค่ตั้งใจค้นหา พิจารณาความเป็นเลิศในตัวเอง
..
ในทันทีที่คุณรู้ตัวเองแล้วว่า ..  คุณควรยืนอยู่ ณ จุดใด
..
แล้วคุณจะสัมผัสได้ว่า
คุณ..สามารถกลายเป็นอีกคน ที่ทรงคุณค่า
มีราคาแสนแพงต่อดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้มากมายขนาดไหน
..
คนก็เหมือนกับ"น้ำมันดิบ"
ที่หมักหมม มานานนมใต้พื้นพิภพ
จับแล้วเลอะเทอะ เหนียวเหนอะ น่ารังเกียจ
แต่ในทันทีที่มันถูกขุดเจาะขึ้นมาจากใต้พื้นโลก
แล้วนำมาใช้ประโยชน์ เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์ กลไกต่างๆ
มันจึงมีคุณค่ามหาศาล กลายเป็นของมีราคาขึ้นมาในชั่วพริบตา
..
ดั่ง..เพชร..ที่ซ่อนอยู่ในโคลนตม ก็เช่นกัน
ผู้คนจะได้ชื่นชมก็ต่อเมื่อ..มันถูกเคลื่อนย้ายมาอยู่ท่ามกลางแสงไฟ
ฉันใด ก็ ฉันนั้น
..
เป็นเรื่อง ง่าย ง่าย..
ถ้าเพียงแค่คุณลอง .. มองด้วยใจ
..
ด้วยการตั้งคำถามที่ถูกต้องกับตัวเอง ว่า ..
"ฉันเก่งงานอะไร // ฉันถนัดงานอะไร // งานอะไรที่ฉันรักที่จะทำ..??"
แล้วใช้สมาธิ ใช้สติ ใคร่ครวญดู
เปิดใจ เปิดอก พูดคุยกับตัวเอง อย่างจริงจริง จังจัง ดูสักครั้ง
เพราะคุณคือคนเดียวในโลกนี้..ที่จะให้.."คำตอบ"..กับตัวเองได้
..
แล้วคุณจะสัมผัสถึงขุมพลังที่ส่องประกายฉายแววออกมา
..
ค้นหาจุดยืน แล้วเคลื่อนย้ายตัวเอง..
ให้ก้าวไปอยู่ใน.."จุด"..ที่ได้มีโอกาสแสดงถึงคุณค่านั้น
เพื่อผู้คนจะได้ประจักษ์และได้สัมผัสคุณค่านั้นไปพร้อมกับคุณด้วย
..
เพราะชีวิตคุณ ถูกสร้างมาเพื่ออะไรบางอย่าง ที่พิเศษ และมีความหมาย
และนั่นคือเหตุผลสำคัญอย่างยิ่ง
ในฐานะที่คุณได้รับการคัดเลือก ..
ให้เป็นส่วนหนึ่งของสรรพชีวิตที่ดำรงอยู่..บนโลกใบนี้..นั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558

นิทานบันเทิงธรรม 053 เรื่อง ลูกช้างกับช่างไม้



นิทานบันเทิงธรรม 052 บันทึกก้อนกรวด



นิทานบันเทิงธรรม 051 เรื่อง รังนกกระจาบ



นิทานบันเทิงธรรม 050 เรื่อง คนตัดไม้




แข่งขันกับตัวเองทุกวัน เพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น .. เก่งกว่าตัวเองคนเมื่อวาน

..
แข่งขันกับตัวเองทุกวัน
เพื่อเป็นคนที่ดีขึ้น .. เก่งกว่าตัวเองคนเมื่อวาน
..
การตั้งหน้าตั้งตาแข่งขันกับคนอื่น หรือเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นนั้น
แท้จริงแล้ว .. ล้วนมาจาก ความรู้สึกขาดแคลน รู้สึกมีไม่พอ
มาจากความเข้าใจผิดคิดว่า โลกนี้ มีทรัพยากรจำนวนจำกัด
คิดไปเองว่า .. ถ้าเธอได้มาก ฉันจะมีน้อยลง
..
ทัศนคตินี้ .. ทำให้จิตมนุษย์ไม่นิ่ง เสียสมาธิ ขาดสติ
..
ความจริงแล้ว โลกมีทรัพยากรมากเกินพอสำหรับมนุษย์ทุกคน
มนุษย์ไม่จำเป็นต้องแก่งแย่งกัน ก็อยู่ได้อย่างมีความสุข
ในขณะที่ หากมนุษย์ช่วยเหลือกัน แบ่งปันกัน
ผลักดันให้มนุษย์ด้วยกัน ได้ดี
สิ่งดีนั้น จะย้อนกลับมาสู่ บุคคลที่เป็นผู้ให้ อย่างไม่มีประมาณ
เหมือนสายธาร ที่ให้ความชุ่มฉ่ำ เหมือนแสงตะวันที่ให้ความอบอุ่น
เหมือนต้นไม้ที่มอบอากาศบริสุทธิ์ เหมือนผืนแผ่นดินที่ให้พืชพรรณธัญญาหาร ฯลฯ
..
หากตั้งคำถามว่า ..คนเราทุกข์เพราะอะไร ..??
ทุกข์เพราะเห็นคนอื่นมีความสุข ..??
ทุกข์เพราะเห็นคนดูดี ทุกข์เพราะเห็นคนรวย .. ??
ทุกข์เพราะทรงผม ทุกข์เพราะเสื้อผ้า หรือ ทุกข์เพราะยานพาหนะ .. ??
..
คุณทุกข์เพราะสิ่งเหล่านี้จริงๆเหรอ ..!!
ถ้าคำตอบคือไม่ใช่ แล้วคุณจะทุกข์ไปทำไม
..
ความจริงแล้ว .. ทุกคนเกิดมาทีคุณค่า ไม่มีใครเสมอเหมือนอยู่แล้วในโลก
เหมือนดอกไม้นานาพรรณในป่า ที่อุดมสมบูรณ์ แตกต่าง แต่ เติมเต็มให้กันและกัน
ดอกกุหลาบไม่อาจตำหนิดอกบัวว่าไร้คุณค่า
ต้นโพธิ์ใหญ่ ไม่อาจเหยียดหยามต้นไทร ว่า ไร้ความหมาย
ต้นทุเรียน ไม่อาจไปเยาะเย้ย ต้นลำไย ว่า ไม่มีรสชาติ ฉันใด
ทุกสิ่งอย่าง ทุกผู้คน ก็ต่างล้วนเกิดมาเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้โลกด้วยกันฉันนั้น
..
เมื่อเห็นคุณค่า ความงดงาม ความมีประโยชน์ต่อโลก ของตัวเองได้เมื่อไหร่
บรรดาอาภรณ์ เครื่องประดับภายนอก จะวิ่งตามเข้ามาหาคุณเอง
..
..
แต่ในทางตรงกันข้าม
ถ้าคุณ ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งตามแฟชั่น เครื่องประดับตกแต่งภายนอก
มันจะยิ่งวิ่งหนีคุณ .. ยิ่งวิ่งตาม ยิ่งห่างไกล ..ไปจนกว่าคุณจะเข้าใจในคุณค่า
จนกว่าคุณจะนำความสามารถที่มีคุณค่านั้น..หยิบยื่นช่วยเหลือสังคมโลก
แล้วเงินตรา วัตถุภายนอกนั้น ก็จะเป็นฝ่ายวิ่งตามหา โถมเข้ามาหาคุณ
..
คุณไม่ใช่"คนแรก"ในโลก..ที่เจอปัญหา ที่เจออุปสรรค
เพราะ..คนประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ เค้าก็พบเจอปัญหาเหล่านี้กันทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น ฐานะทางการเงิน ฐานะทางสังคม การศึกษาไม่สูง ฯลฯ
..
คนที่มีความสุขที่สุด ..ความจริงแล้ว.. เค้าก็มีความทุกข์มากที่สุดด้วยเช่นกัน
เพียงแต่เค้าบอกใจให้.."หยุด"..
หยุดหาเหตุผลที่คอยกระซิบบอกตัวเองว่า ..ฉันไม่มีทางประสบความสำเร็จ
ด้วยเงื่อนไขต่างๆนานา ที่มันมีตั้งหน้าตั้งตายื้อยุด ฉุดรั้ง พลังชีวิตให้ล้มเหลว
..
คนประสบความสำเร็จ ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้ว
คุณก็แค่เลียนแบบ เท่านั้น ที่สำคัญ..
ให้ปล่อยใจ วางใจ เบาเบา ผ่อนคลาย มีความสุขจากใจ ไม่ใช่จากวัตถุภายนอก
เพียงแค่ทำงานที่คุณรัก..ฝึกทักษะ ..แล้วสนุกไปกับมัน..ทุกวัน ทุกวัน
ก็มีประโยชน์มากพอ ..ที่จะส่งคุณให้ไปสู่ชีวิตที่สมบูรณ์ สมดุลย์ เป็นสุข ..
เกิดความสบายกาย สบายใจ ..ไปพร้อมกับความสำเร็จอย่างงดงาม และมีคุณค่าต่อโลกต่อเรา .. นั่นเอง

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คุณเชื่อเหรอว่า .. “คนที่เคร่งเครียด” จะนำมาซึ่งความสำเร็จ

..
คุณเชื่อเหรอว่า .. “คนที่เคร่งเครียด” จะนำมาซึ่งความสำเร็จ
..
อุปสรรค ในชีวิตคุณ ..มันจะมีหรือไม่นั้น
..
"คุณ..เป็นคนสร้าง..มัน"
..
ข้อเท็จจริงของอุปสรรคคือ ..  "..มันไม่เคยมีอยู่จริง.."
..
ชีวิตมนุษย์ไม่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับอุปสรรค เพราะมันไม่เคยมีอุปสรรค
ความจริง ความเครียดมันไม่เคยมีตัวตน .. ไม่เคยมีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
..
ถ้าสังเกตให้ดี
คนประสบความสำเร็จในโลกนี้
ก็มีภาระความทุกข์มาก..พอๆ กับ ..มีความสุข
มีปัญหาที่ต้องแก้เยอะแยะ สารพัด เหมือนๆกันกับคนทุกคน
..
แต่คนประสบความสำเร็จ..ก็ไม่ได้..เครียด..ไปหมดทุกคน
หนำซ้ำบางคนยังสามารถจัดการทุกอย่างในชีวิตได้เป็นอย่างดี
ทั้งๆที่มีเวลา 24 ชั่วโมงต่อวัน เท่ากัน
..
ความเครียด ความกังวล ความทุกข์
จึงเป็นสิ่งที่คุณ..สร้างตัวตน..ให้มันเองทั้งสิ้น
..
คนบางคน ขยันแทบตาย ได้เงินน้อยก็มี
คนบางคนขยันแทบตาย ได้เงินมากก็มี
คนบางคน ทำตัวสบายๆ ได้เงินน้อยก็มี
คนบางคน ทำตัวสบายๆ ได้เงินมากก็มี
คนเรามันมีทุกรูปแบบ ..
..
วันนี้ จึงต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า คุณเป็นคนประเภทไหน ..??
..
ถ้าอยากเป็นคนที่ ทำตัวสบายๆ แล้วได้รายได้ดี
คำตอบก็คือ .. "ก็บอกกับตัวเองเฉพาะเรื่องดีดีสิ..มันง่ายแค่นั้นจริงจริง"
..
ควานหา ค้นหา เรื่องดีดี จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ ..ให้เจอ
เพราะอะไร ก็ตามที่คุณบอกตัวเอง ..
นั่นคือการเขียนบทละครชีวิตของคุณให้เป็นไปตามนั้น
..
ถ้าคุณบอกว่าเรื่องนี้..ต้องทุกข์.. คุณก็กำลังทุกข์
ถ้าคุณบอกว่าเรื่องนี้..ควรเครียด..คุณก็กำลังเครียด
..
มันเป็นเรื่องของคุณล้วนๆ ไม่เกี่ยวข้องกับใคร
ซึ่งไม่มีความจำเป็นใดใด..ต้องทำร้ายตัวเองขนาดนั้น
..
มนุษย์มีสิทธิ์อันชอบธรรม ในการปล่อยวางใจให้ว่าง ว่าง
ทำตัวให้ผ่อนคลาย .. สบาย สบาย
Clear Your Mind
จากนั้น ก็ป้อนข้อมูลดีดีให้สมอง
กระทั่งลึกลงไปในระดับจิตใต้สำนึก
..
ฝึกมองเห็นภาพภายในใจที่สวยงาม
ฝึกฟังเสียงภายในใจที่ใสสะอาด
ฝึกสัมผัสเรื่องราวที่ทรงคุณค่า
ฝึกไปเรื่อยๆ แล้วทักษะ ความชำนาญ จะเกิดขึ้นเอง
..
แล้วนับจาก วินาทีนี้เป็นต้นไป
ชีวิตคุณก็จะถูกออกแบบ ..  โดยไร้ข้อจำกัดใดใด ..
หลุดออกจากหลักการ กฏเกณฑ์ เก่าเก่า
ที่ Make มันขึ้นมา ที่ Fake กับตัวเองมาโดยตลอด
ปรับ Mind Set เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ให้เป็นสุข สดใส
เพราะทันที ที่คุณตื่นรู้ และโลกทั้งใบรับรู้ว่าคุณ เบิกบานใจ ได้เมื่อไหร่
ชีวิตที่เป็นสุดยอด..ยิ่งกว่า..ที่คุณเคยเป็น..จะเกิดขึ้นทันตาเห็น..
..
นั่นเอง

นิทานบันเทิงธรรม 049 เรื่อง นิทานของพระอาทิตย์



วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

นิทานบันเทิงธรรม 048 เรื่อง มนุษย์ท่อ



นิทานบันเทิงธรรม 047 เรื่อง ดินสอกับยางลบ



นิทานบันเทิงธรรม 046 เรื่อง การตัดสินคุณค่าจากรูปลักษณ์ภายนอก



มนุษย์ไม่อาจไปได้ไกล..เกินกว่าที่ใจคิด..ได้เลย

..
มนุษย์ไม่อาจไปได้ไกล..เกินกว่าที่ใจคิด..ได้เลย
ฉะนั้นผู้ที่ประสบความสำเร็จจึงต้องตั้งเป้าหมายให้ยิ่งใหญ่เข้าไว้ก่อน
..
สร้างชีวิตใหม่ ด้วยการปรับ Mind Set(ระบบความคิดภายในจิต)ใหม่
เปลี่ยนเสียง เปลี่ยนภาพ Mind Set แบบเก่าๆ
ที่มันกระซิบบอกคุณ เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ
ที่ตั้งหน้าตั้งตา ฉุดรั้ง ยั้งหยุด ถ่วงความเจริญ ก้าวหน้า ของคุณอยู่ ณ ขณะนี้
..
ถ้าคุณติดตั้งระบบความคิดได้ดีในสมอง (Setup Your Mind)
ชีวิตคุณจะได้ยินเสียงดีดี ได้รับภาพดีดีที่ประทับใจ อยู่ตลอดเวลา
(เป็น อกาลิโก คือ อยู่เหนือกาลเวลา .. ไม่มีเวลามาเกี่ยวข้องกับชีวิต)
..
และไม่ว่าคุณจะเชื่อยังไง ชีวิตคุณก็จะเป็นอย่างนั้น
เพราะนั่น..คือ..ความจริง
..
คุณจะไม่มีวันได้อะไร..ไปไกลเกินกว่าที่ใจคุณ..คิด..
หมายถึง .. คุณจะได้เท่ากับ หรือ ต่ำกว่า ที่คุณคิด อย่างแน่นอน
..
หากคุณต้องการ.."เงินล้าน" คุณต้องกล้าคิดถึง "เงิน 10 ล้าน"
หากคุณต้องการ "บ้านหลังเล็กๆ" คุณต้องกล้าฝันถึง "บ้านหลังใหญ่"
หากคุณต้องการ"รถยนต์ดีดี"สักคัน คุณต้องกล้าฝันถึง "รถยนต์ราคาเกินล้าน"
..
คุณอาจจะไปได้ไม่ถึงเป้าหมายที่คุณต้องการ 100 % ก็จริงอยู่
แต่มันจะทำให้คุณ ได้ตามฝันอย่างน้อยก็ 10 % ขึ้นไป
..
ชำระล้างความคิดแบบเดิมเดิม (Clear Your Mind)
หากชีวิตที่ผ่านมา
ผลลัพธ์ในชีวิต ณ ตอนนี้ .. มันยังไม่ได้ตอบโจทย์เป้าหมายที่แท้จริงในชีวิตให้คุณ
..
กำหนด Mind Set ภายในใจของคุณใหม่ ซะตั้งแต่บัดนี้
เพื่อชีวิตที่สมบูรณ์พร้อมกว่า ตามที่ใจคุณปรารถนาก็เท่านั้น..นั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สนามรบที่น่ากลัวที่สุด คือสนามรบ..ทาง"ความคิดลบ"

..
สนามรบที่น่ากลัวที่สุด คือสนามรบ..ทาง"ความคิดลบ"
ความคิดลบเข้ามาเมื่อไหร่
จงเตรียมตัว..เตรียมใจ..พร้อมรบกับชีวิตตัวคุณเองเลยทันที
..
Format ความคิดลบทิ้งไป
เหมือน Format Harddisk
ด้วยวิธีการ
คิดไม่ดี..ให้ตีเลย หรือ คิดลบ..ให้ตบเลย
..
ตบต้นขาตัวเอง เบาเบา หรือ ตีข้อมือตัวเอง เบาเบา
ให้มันล้างเรื่องราวร้ายๆ
ที่เข้ามาทำลายความรู้สึกของคุณมันออกไป
จากการที่คุณใช้สติ รู้เท่าทันความคิด ได้ว่า ..
เหตุการณ์ เรื่องราว ผู้คน ที่คุณกำลังคิดลบด้วยอยู่นั้น
มันไม่ได้สร้างสิ่งดีดีใดใด ให้กับตัวคุณเองเลยสักนิด
มันมีแต่จะค่อยๆทำลายชีวิตคุณให้พังทลายลงไปทีละนิด ทีละนิด
..
เมื่อใช้วิธีการนี้บ่อยๆ ติดต่อกัน 1 สัปดาห์ (มากกว่านั้นได้ยิ่งดี)
คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวคุณ .. คุณที่เป็นคนใหม่
คนที่ตัวคุณเอง อาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไป
แต่คนข้างๆกาย..จะสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกว่า..คุณเปลี่ยนแปลง
..
วิธีการนี้ ไม่สำคัญว่า ใครจะคิดลบกับใครบ้าง เรื่องอะไร สาเหตุคืออะไร
แต่สำคัญอยู่ที่ว่า .. ใครสามารถล้างความคิดลบได้ก่อนใคร
ก็จะปลอดภัย สบายตัว สบายใจไปก่อน ก็เท่านั้น
..
แล้วคุณก็จะไม่ตกหลุมพรางทางความคิด
ที่ร้ายๆ ลบๆ ของคุณเอง อีกต่อไป
..
ปล่อยให้..คนที่คิดลบ เขาได้สู้รบ ตบตี ทิ่มแทง ทำร้ายตัวเอง
ด้วยความรู้สึกแย่ๆ เสียให้พอใจ ..ไปก่อนก็แล้วกัน ..
..
นั่นเอง

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ตะโกนร้องบอกกับตัวเอง..ว่า “ฉันมีความสุข ฉันอารมณ์ดี ฉันมีสิ่งดีๆเข้ามาตลอดทั้งวัน”

..
ตะโกนร้องบอกกับตัวเอง..ว่า
“ฉันมีความสุข ฉันอารมณ์ดี ฉันมีสิ่งดีๆเข้ามาตลอดทั้งวัน”
เมื่อไหร่ที่ฉันโกรธ ฉันโมโหฉันรู้สึกไม่ดีกับตัวเองและคนอื่น
ฉันจะรู้ตัวเองทันที..ว่า
ฉันกำลังสร้างกำแพงหนา 10 ชั้น มาบดบัง
กักขังฉันไว้ ให้อยู่กับความเศร้าหมองของฉันเอง
ไม่เกี่ยวข้องกับใครเลย ฉันเป็นคนทำมันขึ้นมาเอง
ฉันสร้างความทุกข์ทั้งหลายขึ้นมาด้วยน้ำมือของฉันเอง
ไม่เกี่ยวกับใครในโลกเลย
..
ความโกรธ ความโมโห ความเศร้าหมอง
ไม่มีประโยชน์อะไร หาผลประโยชน์จากมันไม่ได้
..
มีแต่จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ จิตใจอ่อนเพลีย ความคิดไม่ปลอดโปร่ง
สังเกตเวลาโกรธ แม้หนังตลกที่สุด ก็ไม่อาจทำให้คุณหัวเราะได้
..
เวลาที่โมโห แม้จะกินอาหารอร่อยเลิศที่สุด
แต่ก็ไม่อาจสัมผัสรสชาติของความอร่อยนั้นได้
..
เวลาเศร้าหมอง แม้มองสิ่งที่สวยงาม ก็ไม่อาจเกิดความประทับใจได้เลย
..
แสดงว่า ความทุกข์ใดใดก็ตาม
มีตัวคุณเองเป็นผู้บังคับบัญชาอยู่แต่เพียงผู้เดียว
หาได้ไปเกี่ยวข้องกับใครเลยแม้แต่สักนิดเดียว..นั่นเอง

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ผู้คนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังความสดใส เบิกบานใจ ความตื่นเต้น ความมีพลังจากภายในใจ พลังความสุขในตัวคุณ

..
ทุกการกระทำที่คุณสื่อสารกับคน ทุกการสื่อสารกับโลกใบนี้
ผู้คนจะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังความสดใส เบิกบานใจ
ความตื่นเต้น ความมีพลังจากภายในใจ พลังความสุขในตัวคุณไปด้วย
หลายครั้งที่ลูกค้าซื้อของจากคุณ เพราะเค้าเห็นคุณ อารมณ์ดี มีความสุข ..
นั่นคือ ลูกค้าไม่ได้ซื้อแค่สินค้า
แต่เค้าได้ซื้อความสุข ความสบายใจจากตัวคุณไปด้วย
..
ต่างจากคนค้าขายที่อารมณ์เสีย หงุดหงิด
โกรธอยู่ตลอดเวลา เครียดอยู่ตลอดเวลา ..
คิดอยู่กับตัวเองว่า วันนี้จะขายดี จะขายได้มั้ยว้า ..
ทำตัวเองแบบเซ็งๆเบื่อๆ
..
หากเป็นคุณในฐานะลูกค้า ก็คงไม่อยากเข้าไปใช้บริการ ..
..
ลูกค้าทั่วไปก็ไม่อยากเดินเข้าไปเจออารมณ์แบบนั้น
เพราะมันไม่.."ฟิน"..เอาซะเลย..
..
แทนที่ซื้อของแล้วจะรู้สึกดี มีความสุข
แต่ร้านค้า คนขาย กลับมาดึงพลังชีวิตของลูกค้าให้ลดลงไป..
..
ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ ก็ไม่ต้องการความรู้สึกที่ไม่ดีอยู่แล้ว..
..
มนุษย์จึงพยายามหาหนทาง ไปทุกที่ ทำทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองรู้สึกสบายใจ ..
..
ลูกค้าเองก็เช่นกัน
ทำไม "เซเว่น อีเลฟเว่น" ขายของแพงได้ดี
คุณต่างก็รู้ เข้าทีไร หมดเป็นร้อยทุกที แต่ก็ยินดีจ่าย..เพราะสบายใจ
..
นี่เป็นวิทยาศาสตร์ที่ง่ายๆ สบายๆ
ฉะนั้น วันนี้ถ้าคุณอยากขายของให้ได้ดี มีกำไร ให้ลูกค้าหลั่งไหลเข้ามา
ขอให้คุณ  มีความเชื่อ ..ว่า ..วันนี้คุณมีอารมณ์ดี เบิกบานใจ แจ่มใส
วันนี้คุณมีความสุข คุณยิ้มได้กับทุกเรื่องราวที่เข้ามา.. ก็เพียงเท่านั้น.. นั่นเอง
..

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

“ความเชื่อ”.. เป็นเรื่องที่อยู่เหนือเหตุผล ไม่มี..ตัวตน ..แต่.. มี..อยู่จริง

..
“ความเชื่อ”.. เป็นเรื่องที่อยู่เหนือเหตุผล
ไม่มี..ตัวตน ..แต่.. มี..อยู่จริง
“ความเชื่อ”.. คล้ายกับความกลัว ตรงที่ ความกลัวก็ไม่มีตัวตน
“ความเชื่อ”.. แตกต่างกับความกลัว ตรงที่ ความกลัวนั้นไม่มีอยู่จริง
อย่าขัดขวาง กักขัง หน่วงเหนี่ยว..ความเชื่อ
ไว้เพียงแค่ในระดับของความคิด
หยุดหาเหตุผลต่างๆมากมายมาทำลาย..ความเชื่อ..
..
เพราะคุณจะได้รับทุกอย่างตามความเชื่อ
..
ถ้าคุณเชื่อว่าเหตุการณ์ดี ตัวคุณเป็นคนดี
อารมณ์คุณก็จะดี มีความสุขไปทั้งวัน
โดยไม่ต้องหาเหตุผลมารองรับ ว่าทำไมฉันจึงต้องอารมณ์ดี
..
และถ้าคุณเชื่อว่าคุณจะทำสิ่งนั้นได้ดี ปรับเปลี่ยนเหตุการณ์ต่างๆได้ดี
คุณก็จะสามารถทำสิ่งนั้นได้ดี ปรับเปลี่ยนเหตุการณ์ต่างๆได้ดีด้วยเช่นกัน
โดยไม่ต้องหาเหตุผลมารองรับ ว่าทำไมคุณถึงสามารถทำมันได้
..
ก็ถ้ามันจะดี มันเป็นเพราะฉันเชื่อ ว่ามันจะดี
เคยได้ยินคนค้าขาย พูดกันเล่นๆ จนติดปากหรือเปล่าครับ ว่า
ถ้าลูกค้า คนแรก ซื้อของกับเราง่ายๆ วันนั้น ลูกค้ารายต่อๆไป ก็จะง่ายทั้งวัน
มันเป็นแค่ความเชื่อ
แต่ผลลัพธ์ที่ได้ มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
..
ความเชื่อ ไม่มีเหตุผล
แต่เห็นผล ได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์
เพราะพิสูจน์ และ เมื่อทำซ้ำ ก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนกันทุกครั้ง
..
เหมือนจะซับซ้อน แต่มันกลับง่ายนิดเดียว
ง่ายเท่าที่คุณ เชื่อว่ามันง่าย
..
มันยากเพราะ คุณเชื่อว่ามันยาก
มันง่ายเพราะ คุณเชื่อว่ามันง่าย
(ก็เพียงเท่านั้น..จริงจริง)
..
หลายคนเข้าใจผิดว่าความเชื่อเป็นไสยศาสตร์
แท้จริงมันเป็นวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนที่สุด
คุณแค่เชื่อว่าคุณมีความสุข คุณก็จะมีความสุข
..
ไม่มีการบนบานศาลกล่าวใดใด จะศักดิ์สิทธิ์ สัมฤทธิ์ผลได้ดี
เท่ากับการบนบานศาลกล่าว กล่าวสารถึงสิ่งที่คุณต้องการ
เรียกร้องจาก..ความเชื่อ..ภายในใจของคุณ..เท่านั้น..นั่นเอง

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อารมณ์โกรธ ไม่อาจส่งผลประโยชน์ที่ดีกับตัวคุณ

..
เคยดูตลกแล้วไม่หัวเราะมั๊ย ..
ในทางกลับกัน
เคยล้มเหลว เจ็บเจียนตาย แต่หัวเราะได้บ้างหรือเปล่า ..
ความสุขไม่ได้อยู่ที่โลกภายนอก
แต่ อยู่ที่โลกภายในใจ โลกภายใจตัวเรา
ที่มีคุณเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
..
แท้จริง สถานการณ์ต่างๆ มันดีกับคุณมากที่สุด อยู่แล้ว
เอกภพ จักรวาล โลกใบนี้ ต่างก็เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับคุณ
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคุณ ล้วนผลักดัน หล่อหลอม ส่งเสริม
ให้คุณประสบความสำเร็จ ให้คุณมีความสุข โดยสมบูรณ์พร้อม
..
อารมณ์โกรธ ไม่อาจส่งผลประโยชน์ที่ดีกับตัวคุณ
อารมณ์โมโห ไม่อาจทำให้คุณได้รับรสชาติของอาหารอร่อยที่อยู่ตรงหน้า
หรือกลิ่นความหอมฟุ้งที่อยู่รายล้อม รูปภาพสวยงามก็มิอาจมองเห็น
แม้แต่สัมผัสที่อบอุ่นก็ไม่อาจรับรู้ได้เลย ..
..
คุณจึงต้องหันด้านของอารมณ์แห่งความสุข
ความรู้สึกแห่งความสบายใจ สงบสุข
โยนใส่ ความคิดตัวคุณเอง โยนใส่สถานการณ์ปัจจุบัน
โยนใส่ผู้คนรอบข้าง เหตุการณ์ต่างๆรอบกาย
..
แล้วเสพเอาความสุขจากสถานการณ์นั้นๆ เอาไว้ ให้ล้นปรี่่ ..
เกิดปิติให้ล้นเหลือ .. รับเอาพลังจากสถานการณ์นั้นๆ เอาไว้แบบเต็มๆ ..
ให้มันโถมเข้ามาซัดความสุขใส่ตัวคุณให้เต็มที่
ให้เนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำแห่งความชื่นฉ่ำ
ให้สายลมแห่งความรัก ความอบอุ่น โอบกอดคุณไว้โดยรอบ
และหมุนวนรอบตัวคุณอยู่อย่างนั้น ทุกวัน ทุกคืน ทุกขณะเวลา
..
คุณต้องไม่ยอมมอบอำนาจของคุณให้กับความคิดลบอีกต่อไป ..
ไม่ยอมมอบอำนาจของคุณให้อารมณ์ความโมโห ความโกรธ ความคิดแย่ๆ อีกต่อไปแล้ว..นั่นเอง

นิทานบันเทิงธรรม 044 เรื่อง โค้ช


นิทานบันเทิงธรรม 045 ขนมชื่อว่าไม่มี


คุณจะมีความสุข เมื่อ .. คุณตัดสินใจ ที่จะมีความสุข ..

..
ความคิดภายในจิตใต้สำนึก
ก็เหมือนกับน้ำเน่า ..ที่ขังกลิ่นเน่าเหม็นเอาไว้
คุณทำให้มันออกไปจากตัวเองไม่ได้
คุณทำได้เพียงแค่ให้.."พิษ"..ที่มันขังอยู่ในน้ำนั้น..เจือจางลงได้
ด้วยการใส่คลอรีน (ความคิดที่วิเศษ) ลงไป เพื่อให้น้ำนั้นสามารถดื่มได้
..
บางทีความคิดทำร้ายคุณจากความโกรธที่ทะเลาะกับคนรอบข้าง
อ่านธรรมะ ก็ไม่เข้าหัว ความคิดมันค้างอย่างนั้น
เป็นวันสองวันสามวัน.. วนเวียนอยู่อย่างนั้น
จนกระทั่งมันเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ เข้ามาในตัวคุณ
สถานการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น จากความคิดคุณ.. ทั้งนั้น
..
ความจริง ไม่ได้มาจากคุณ เป็นต้นเหตุ
มันไม่ได้เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่รอบข้าง..
แต่มันเกิดจาก ความคิดทางด้านลบ
ความคิดของปีศาจในตัวคุณ
มันพยายามกระหน่ำลงใส่สมองของคุณ เพื่อควบคุมชีวิตคุณ
..
กระทั่ง คุณค้นพบว่า คุณไม่มีรูปแบบความคิดเป็นของตัวเอง
คุณหยิบยื่นความคิด ความรู้สึกของคุณ จิตวิญญาณของคุณ
ให้คนอื่นไปซะแล้วเรียบร้อย.. โดยที่เราไม่รู้ตัว
..
ถ้าคุณตื่นแล้ว คุณเบิกบานแล้ว คุณรู้สึกตัวแล้ว
คุณจะพบหนทางสว่าง และ แจ้งแก่ใจตนเอง ด้วยปัญญา
..
ทันทีที่คุณรู้สึกแย่ๆ กับตัวเอง .. ให้บอกกับปีศาจร้ายในตัวคุณไปเลยว่า ..
“ ไอ้ชั่ว เรื่องที่แกพูด แกบอกฉัน มันโกหก ทั้งเพ ”
“วันนี้ มันเป็นวันที่ดีที่สุด ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของฉันต่างหาก..”
..
ความคิดท้อใจ ไม่ได้มาจากใคร ..
ไม่มีใครส่งความคิดท้อแท้มาให้คุณเลย ..
..
คุณแค่เพียง.."ฟังเสียงใหม่".. เปลี่ยนเสียงที่บอกกับตัวเองใหม่ ..
แล้วคิดสิ่งที่จะเป็นผลประโยชน์ให้กับตัวเองในวันนี้ ซะตั้งแต่วันนี้ ..
..
บอกตัวเองว่า ..
“นับจากนี้ไป ฉันจะเป็นคน ควบคุม ความคิด คำพูด จิตใจ ของฉัน
ควบคุมเวลาของฉัน ด้วยตัวของฉันเอง
ในรูปแบบชีวิต ที่ฉันต้องการ ด้วยตัวของฉันเอง
หยุด บอกว่า ฉันไม่ชอบนั่น ฉันเกลียดไอ้โน่น เบื่อไอ้นี่ .. ซะที”
..
รู้ใช่มั๊ยครับว่า .. มันไม่มีประโยชน์อะไรกับชีวิตของคุณเลย
ขออย่าให้คุณต่อต้าน พร ที่คุณมอบให้กับตัวคุณเอง
ทำมันทุกวัน ลบล้างความคิดแย่ๆออกไป ที่มันส่งผลให้ชีวิตแย่ลง แย่ลง
..
จงพร้อมที่จะประกาศอิสรภาพของชีวิต
ด้วยถ้อยคำดีดี ที่สื่อถึงอารมณ์ สื่อไปถึงความรู้สึก ที่ยอดเยี่ยม
ส่งผลให้คุณพบเรื่องราวที่ตื่นเต้น เร้าใจ ไปกับความวิเศษสุดสุด
ที่ไม่เคยได้พบได้เห็นมาก่อน
..
คุณจะมีความสุข เมื่อ .. คุณตัดสินใจ ที่จะมีความสุข ..
ความสุข เป็นของคนแต่ละคน ความสุขเป็นของคุณเอง ..
ความสุข ไม่ได้ออกมาจากคำพูดของใคร ..
แต่ความสุขออกมาจากคำพูด ความคิด ความรู้สึก ที่คุณมีต่อตัวคุณเอง .. ทั้งนั้น..นั่นเอง
..

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

มนุษย์มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน เป็นปัจเจกชน

..
มนุษย์มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน เป็นปัจเจกชน
มีความแตกต่างอย่างโดดเด่น อยู่แล้วในตัวเอง
ทั้งหน้าตา รูปร่าง ความสามารถ ทักษะ อุปนิสัย
หล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก..
..
ดังนั้น ในโลกนี้ จึง..
ไม่มีใคร..ต่ำ..กว่าคุณ
ไม่มีใคร..สูง..กว่าคุณ
และที่สำคัญ
ไม่มีใคร..เสมอ..กับคุณอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็น เสมอเหมือน หรือ เสมอกัน นั้น .. ย่อมไม่มีเลย
..
“มนุษย์” จึงไม่อาจนำ “มนุษย์” ด้วยกันมาเปรียบเทียบกันได้
..
หากสังเกต พินิจ พิจารณา กันให้ถ้วนถี่ ข้อมูลบ่งชี้ ว่า
แม้คนหล่อ คนสวย คนรวย คนฉลาด คนเก่ง
ต่างก็มีรู้สึกทุกข์ อยู่ในใจ กันทั้งนั้น
หรือแม้กระทั่ง
คนจน คนไม่หล่อ คนแต่งตัวไม่ดี หน้าที่การงาน ตำแหน่งไม่สูง
ต่างก็มีรู้สึกทุกข์ อยู่ในใจ ด้วยเช่นเดียวกัน
..
สาเหตุที่มนุษย์ต่างกัน ในความสำเร็จของชีวิต
มีอยู่เพียงแค่  “ความคิด” ที่ต่างกันเท่านั้น
..
คนเรา มีตา มีหู มีใจ
ต่างผ่านประสบการณ์ การมองเห็น การได้ยินได้ฟัง
และการคิดต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่แตกต่างกัน
..
สมองจึงทำหน้าที่ เก็บข้อมูลความคิดไว้ ในฐานข้อมูลจิตใต้สำนึก
ที่คนๆนั้น ตีความเหตุการณ์นั้น  ตัดสินเรื่องราวนั้นไว้ว่ายังไง
..
หากเขาตีความว่าสิ่งนั้นดี จิตใต้สำนึกจะเก็บเป็นข้อมูลเอาไว้
ส่งออกเป็นความรู้สึก อารมณ์ ทางด้านจิตใจ ให้เป็นความสุขออกมา
ขณะที่ร่างกายก็จะหลั่งสารที่เป็นประโยชน์
ส่งผลให้เกิดพฤติกรรม การกระทำ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ อย่างมีความสุขออกมา
..
ในทางตรงกันข้าม
หากเขาตีความว่าสิ่งนั้นไม่ดี จิตใต้สำนึกจะเก็บเป็นข้อมูลเอาไว้
ส่งออกเป็นความรู้สึก อารมณ์ ทางด้านจิตใจ ให้เป็นความทุกข์ออกมา
ขณะที่ร่างกายก็จะหลั่งสารที่เป็นโทษ
ส่งผลให้เกิดพฤติกรรม การกระทำ เศร้าหมอง วิตกกังวล
เดินไหล่ตก พกโรคภัย อันทำให้มีปัญหาสุขภาพตามมา..
..
ทั้งนี้ .. “ไม่มีอะไรผิด” ..
จะคิดดี หรือ ไม่ดี .. ถ้ามนุษย์คนนั้น ยอมรับสิ่งนั้นได้
ทนต่อสิ่งนั้นได้ .. ก็ไม่จำเป็น ต้องเปลี่ยนความคิดอะไรมากมาย
..
แต่ถ้าหาก รู้สึกว่า ไม่อยากอยู่อย่างนี้อีกแล้ว ไม่อยากทุกข์ อย่างนี้อีกแล้ว
ก็เพียงแค่ .. ให้เปลี่ยนความคิด ..
..
เพราะ ทันที ที่เปลี่ยนความคิด .. ชีวิต ทั้งชีวิต ก็จะเปลี่ยนแปลงไป .. นั่นเอง

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

นิทานบันเทิงธรรม 043 เรื่อง รักนิรันดร์



นิทานบันเทิงธรรม 042 เรื่อง นิทานสำหรับคนรักกัน



การสร้างชาติไม่ได้อยู่ที่จำนวนคน หรือ ขนาดของพื้นที่

..
การสร้างชาติไม่ได้อยู่ที่จำนวนคน หรือ ขนาดของพื้นที่
สิงคโปร์ ,เกาหลีใต้ ,สวิตเซอร์แลนด์ ,เนเธอแลนด์
พิสูจน์ให้ทั้งโลกได้เห็นแล้ว..ถึงความโดดเด่นและยิ่งใหญ่
..
ด้วยพลังของทรัพยากรมนุษย์
องค์กรจะยิ่งใหญ่ได้ ไม่ได้เริ่มต้นที่มีเม็ดเงินลงทุนมหาศาล
แต่เริ่มต้นที่การดึงศักยภาพของทีมงานออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด
ด้วยการให้ความรู้ ให้การศึกษา สร้างพลังความสุข สร้างความรัก ความสามัคคี
..
ถือเป็นเรื่องง่าย ง่าย อันดับต้นๆ ในการสร้างองค์กร
น่าแปลกใจ ที่มีเพียงองค์กรที่ยิ่งใหญ่ของโลกเท่านั้น ที่ให้ความสำคัญ
..
องค์กรที่มีความมั่นคงนั้น
นอกจากจะสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างงดงามแล้ว
ยังได้สร้างอาณาจักรของความสุขให้กับพนักงาน นำไปสู่การสร้างผลงานอันยอดเยี่ยม
ได้รับความสำเร็จทั้งทางด้านการเงิน การงาน และ ทางด้านจิตวิญญาณที่สมบูรณ์พร้อมอีกด้วย
..
คนส่วนใหญ่ในองค์กรนั้นขาดความสุข ขาดความภาคภูมิใจในตัวเอง
หนำซ้ำยังชอบหาเหตุผลมาส่งเสริมความคิดผิดผิดนั้นอยู่ตลอดเวลา
..
ทำให้ขุมพลังและศักยภาพที่มีอยู่นั้น ไม่สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
..
สุดท้าย อะไรที่มัน.. “ไม่จริง”..แต่ถ้าหาก.. คุณเชื่อ.. “มันจะกลายเป็นจริง”
ข้อเท็จจริง ไม่ได้อยู่ที่สถานการณ์บ้านเมือง, ไม่ได้อยู่กับคำพูดของผู้คนในสังคม
..
ข้อเท็จจริง  ไม่ใช่ เรื่องแท้จริง ..
ไม่ว่าจะคิดบวก หรือ คิดลบ .. ต่างมีความจริงครึ่งหนึ่ง ความเท็จครึ่งหนึ่งเสมอ
เพียงแต่ คุณหาประโยชน์ จากข้อเท็จจริงนั้นได้ ด้วยการเชื่อในสิ่งที่ดี
คิดบวก ผลลัพธ์ ก็ย้อนกลับมา บวก
คิดลบ ผลลัพธ์ ก็ย้อนกลับมา ลบ
..
มันไม่ใช่เรื่องจริง เลยสักเรื่อง
เพราะในโลกนี้ เป็นโลกของสมมุติ
คุณจะสมมุติให้คุณเป็นอะไรก็ได้ในโลก
มันล้วนเป็นของปลอมทั้งนั้น
..
ดังนั้น ผลของการคิดดี คิดบวก กับตัวคุณเอง
ย่อมส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ในทางที่ดี ที่เป็นบวก ที่เป็นความเจริญให้กับตัวคุณเอง
ก่อนที่จะส่งผลให้คุณ เข้าใจด้วยปัญญา และอยู่กับโลกสมมุตินี้ด้วยใจที่สบาย
ปล่อยวางทุกอย่างด้วยใจ แม้คุณจะมีทรัพย์สินต่างๆมากมายภายนอกก็ตาม
..
มีทุกอย่างได้ ..โดยไม่เอาใจไปยึดติด ..
ไม่เป็นทุกข์กับสิ่งที่.."มี"
ไม่เป็นทุกข์กับสิ่งที่.."ไม่มี"
..
อิสระ จะเกิดขึ้น อิสรภาพทางจิตวิญญาณ ของคุณจะเกิดขึ้น
ส่งผลลัพธ์ให้คุณหลุดพ้นจากโลกแห่งสมมุติ เดินทางเข้าสู่วิมุติ
ที่อยู่ตรงหน้าคุณทุกคนอยู่แล้ว ณ บัดนี้.. นั่นเอง

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ความรู้สึกเบาสบายเท่านั้น จึงจะดึงศักยภาพในตัวออกมาได้

..
ความรู้สึกเบาสบายเท่านั้น จึงจะดึงศักยภาพในตัวออกมาได้ 
(หมั่นฝึกฝน ให้ใจของคุณ รู้สึกเบาเบา สบายสบายกับทุกเรื่องราวในชีวิต)
..
เวลาที่คุณคิดถึงปัญหา 
จะเท่ากับ เป็นการเชื้อเชิญเรื่องราวเหล่านั่นเข้ามา
เพราะ จิตใต้สำนึกจะเข้าใจว่า คุณต้องการให้มันเกิดขึ้น ..
..
ฉะนั้น จิตที่มีความรู้สึกสุขสบาย
จะเป็นจิตที่ได้รับข้อมูลสะอาด บริสุทธิ์
..
ข้อมูลที่ดี มีประโยชน์
จะส่งผลให้พฤติกรรมในตัวคุณเปลี่ยนแปลงไป
ในทางที่ดีมีประโยขน์ต่อสังคม ต่อโลก
..
ยิ่งคิดดีมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้กำไรมากเท่านั้น
กำไรภายในใจ จะส่งผลให้ได้กำไรภายนอกด้วย
..
โลกจะหยิบยื่นรายได้ดีงาม เงินจะเป็นฝ่ายตามหาคุณ
คิดถึงสิ่งที่อยากได้อยู่บ่อยๆ พูดถึงบ่อยๆ
..
ค่อยๆทำเป้าหมายเล็กๆ ให้สำเร็จบ่อยๆ
แล้วเป้าหมายใหญ่ก็จะอยู่ในมือของคุณอย่างง่ายดาย
..
จิตใต้สำนึกจะรับรู้ เฉพาะข้อมูล ที่คุณอยากได้ (Need)จริงจริง
เฉพาะในตอนที่ คุณไม่คิดอะไร
(เมื่อมีสติกับปัจจุบันขณะ..ให้คุณหยุดคิด
..สักพักจิตจะรวมเป็นหนึ่ง..แล้วปัญญาจะเกิดขึ้นเอง)
จิตใต้สำนึก ไม่เคยมีเหตุผล
..
คุณแค่มีเพียงเป้าหมาย ตั้งโจทย์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นจริง (สารตั้งต้นความสำเร็จ)
จิตใต้สำนึกจะทำหน้าที่ กลั่นกรอง ค้นหาคำตอบให้คุณเอง อย่างมีความสุข
..
คุณเพียงรู้สึกดี รู้สึกตัวอย่างนี้ไปเรื่อยเรื่อย ไปเรื่อยๆ
ถ้าจะพูดให้ง่ายๆก็คือ ..
คุณมีความรู้ทุกอย่างอยู่ภายในตัวของคุณมากมายอยู่แล้ว
..
ซึ่งมันเป็นทั้งแรงบันดาลใจ
เป็นความมั่นใจ เป็นความยอมรับนับถือในตัวคุณเอง
โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังจากใคร หรืออะไรที่ไหนเลย
..
ในตอนที่คุณคิดว่ารวย คุณก็ fake ก็โกหกตัวเอง
เช่นเดียวกันกับ การคิดว่า จน มันก็ fake ก็โกหกตัวเองเช่นเดียวกัน
คุณหลอกตัวเองยังไง คุณก็ได้อย่างนั้นแหละ
..
เพราะข้อเท็จจริง ก็คือ ไม่ว่าอะไรที่คุณคิด คุณเชื่อ
ไม่ว่าอะไรก็ตาม สิ่งนั้นจะดี หรือ ไม่ดี
สิ่งนั้น .. มันจะ.."เกิดขึ้นจริง"..ในชีวิตคุณ
..
ไม่ใช่เพราะสถานการณ์ภายนอก ไม่ใช่เพราะฝูงชน หรือผู้คน
ไม่ใช่เพราะสภาพภูมิอากาศ ไม่ใช่เศรษฐกิจ ไม่ใช่เพราะการเมือง ฯลฯ
..
แต่โลกทั้งใบ จะเปลี่ยนไปตามใจคุณ
..
เพราะโลกอยู่เหมือนเดิมอยู่แล้ว .. มานับล้านๆปี .. ไม่เคยเปลี่ยน
โลกแค่หมุนเวียน ผลัดกันปรากฏตัวขึ้นมา แล้ว หายไป อยู่เป็นประจำ
..
ใจคุณต่างหาก ที่ปรับ ,ปรุง ,เปลี่ยน ให้โลกเป็นอย่างโน้น อย่างนี้ อย่างนั้น
ทุกข์ กังวล วิตก วิจารณ์ วิพากษ์ ตัดสินเรื่องราวต่างๆ
ว่าเป็น อย่างโน้น อย่างนี้ อยู่ตลอดเวลา
..
มีเหตุผลดีดี เป็นหมื่นล้านอย่างบนโลก เพื่อจะบอกให้คุณรู้ว่า
คุณมีอิสรภาพทางการเงิน
คุณมีอิสรภาพทางความคิด
คุณมีอิสรภาพด้านเวลา อยู่แล้วในตอนนี้
..
แต่มันจะไม่มีผล และ ไร้ซึ่งประโยชน์ของเหตุผลนับร้อย นับพัน ไปในทันที
หากคุณ ไม่เคย.. "เชื่อ"..
..
ในทางกลับกัน .. ถ้าหากเพียงคุณ"เชื่อ"
คุณก็ไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลใดๆเลย สักข้อ
เพื่อมาการันตีว่า คุณจะประสบความสำเร็จในชีวิต
..
เพราะ เพียงแค่"ความเชื่อ" ก็มีพลังมากเหลือเฟือ
ก็พอจะทำให้คุณและโลกใบนี้เปลี่ยนแปลงได้แล้ว .. นั่นเอง

มนุษย์นั้น..ต่างก็มีศักยภาพสูงสุดยอดเหมือนกันอยู่แล้วในตัวเอง

..
มนุษย์นั้น..ต่างก็มีศักยภาพสูงสุดยอดเหมือนกันอยู่แล้วในตัวเอง
เพียงแต่ความสามารถนั้นแตกต่างในแบบฉบับของแต่ละบุคคล
..
ถ้าคุณเป็นลิง คุณก็จะปีนต้นไม้ได้เก่ง คล่องแคล่ว ว่องไว
ถ้าคุณเป็นปลา คุณจะว่ายน้ำได้เก่ง เชี่ยวชาญ ช่ำชอง มาตั้งแต่เกิด
ธรรมชาติสร้างทักษะของสิ่งมีชีวิต ให้โดดเด่น แตกต่างกัน
เพื่อสร้างความสัมพันธ์ อย่างสวยงามให้กับโลกใบนี้
..
ไม่จำเป็นเลยสักนิด ที่จะเอา "ปลา" มาเปรียบเทียบกับ "ลิง"
"ปลา" ปีนต้นไม้ ไม่ได้ ไม่เก่งฉันใด .. "ลิง" ก็ว่ายน้ำ ไม่ได้ ไม่เก่งฉันนั้น
..
ศักยภาพของคุณ จึงไม่ได้น้อยหรือมากไปกว่าใครเลยสักนิดเดียว
ก็เพราะเพียงแค่ความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง
..
ความสำคัญอยู่ที่ การดึงเอาพลังความเป็นตัวตนของคุณ
ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อโลกได้มากที่สุด
..
ด้วยความรู้สึกเชื่อมั่นในตนเอง มีความรู้สึกดีให้กับตัวเอง ในทุกๆวัน
"โดยไม่ไปเปรียบเทียบความเป็นตัวของคุณกับของคนอื่นแม้แต่คนเดียว"
..
ภูเขามีความสูง น้ำมีความลึก
ลมมีอิสระของลม เมฆมีความอ่อนโยนของเมฆ
ผู้หญิงใช้ความอ่อนโยน ช่วยบรรเทา แบ่งเบาความแข็งกร้าวของบุรุษ
ส่วนบุรุษใช้ความแข็งกร้าว เสริมสร้างความเข้มแข็งให้อิสตรี
ทั้งสองจึงแตกต่างอย่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน เกิดความสมดุลตามธรรมชาติ
..
หากคุณรู้สึกได้อย่างนี้
คุณมีสิทธิ์ภูมิใจในความเป็นตัวเอง..ที่มีคุณค่าอยู่แล้วในตอนนี้..ได้ทันที
เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีดีต่อตัวคุณเอง และ ต่อผู้คนที่อยู่รายล้อมรอบตัวคุณ
ส่งมอบศักยภาพอันยิ่งใหญ่และงดงาม ให้โลกสัมผัสความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและกัน .. นั่นเอง

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กิเลส ไม่เคยกลัว เกรงความรู้ของผู้ใด

..
อันวิชา ตำราเลิศ ประเสริฐแท้
เป็นทางแก้ แก่นานา บรรดาผล
ก่อกำเนิด สิ่งดีงาม ตามมงคล
ต่างได้ยล ชนชมชื่น ระรื่นใจ

แต่ความรู้ อยู่เป็นคู่ กับกิเลส
คนทุกเพศ เนตรนองน้ำ ช้ำชอกหลาย
หลงเข้าสู่ วังวนทุกข์ จุกเจียนตาย
จักคลี่คลาย กลายกลับดี เมื่อมีธรรม
..

นิทานบันเทิงธรรม 041 เรื่อง ตัดเท่าไหร่ถึงจะพอ


วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เรียน และ เล่น Playing & Learning = เพลิน

..
อันความรู้ มีนับล้าน ให้อ่านเขียน
แม้พากเพียร เรียนจนจบ ครบหมื่นหน
ก็ไม่เท่า ได้ทดลอง ตรองด้วยตน
หาเหตุผล จนกระจ่าง สว่างใจ

ได้ปัญญา มาก็ด้วย รวยการฝึก
รวมใจตรึก ตรองหาเหตุ วิเศษผล
ความสำเร็จ นั้นอยู่ใกล้ ในบัดดล
เรียนจากคน เรียนด้วยตน ค้นพบทาง

นิทานบันเทิงธรรม 040 เรื่อง ชอบกินหัวปลา


วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

นิทานบันเทิงธรรม 036 เรื่อง เศรษฐีทาสีเขียว


ผู้ที่ทำความดีได้อย่างสม่ำเสมอ ก็จะพบเจอความสำเร็จอย่างยั่งยืน

..
ผู้ที่ทำความดีได้อย่างสม่ำเสมอ ก็จะพบเจอความสำเร็จอย่างยั่งยืน
..
คุณคิดว่าจะมีสักวันหนึ่งไหม
ที่คุณสามารถแปรงฟันครั้งใหญ่เพียงครั้งเดียว
เพื่อให้ตัวเองไม่มีกลิ่นปากอีกเลยจนชั่วชีวิต
..
คุณคิดว่าจะเป็นไปได้ไหม
ที่คุณจะสามารถอาบน้ำจนร่างกายสะอาดเอี่ยมที่สุด
เพื่อให้ตัวคุณไม่มีกลิ่นเหม็นอีกเลยจนวันตาย
..
แล้วคุณคิดว่าจะมีเครื่องออกกำลังกายชนิดไหนหรือเปล่า
ที่เมื่อคุณใช้บริหารร่างกายจนผอมสมใจ
แล้วต่อไปคุณจะสามารถกินอะไรก็ได้ทุกๆ วัน โดยไม่กลับมาอ้วนอีกเลย
แม้คุณจะหยุดใช้เครื่องนั้นไปแล้วก็ตาม
..
หากไม่ได้เป็นอย่างนั้น หรือ หากไม่ใช่เป็นเช่นนั้น แล้วละก็
..
ถ้าอย่างนั้น ทำไมคนเราจึงชอบคิดว่า
เมื่อสามารถฝึกสติให้แข็งแกร่งได้ในวันนี้
ความแข็งแกร่งนั้นจะคงอยู่ไปชั่วกาลนาน
..
สิ่งสำคัญก็คือ
ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน การกินอาหาร
การขับถ่าย การออกกำลังกาย การพัฒนาสติ
การเอาชนะใจตัวเอง การออกแบบสมอง การฝึกจิต ฯลฯ
ล้วนแล้วแต่..ต้องอาศัย "การทำอย่างสม่ำเสมอ" ทั้งสิ้น
..
ความเข้าใจผิด คิดว่า
เมื่อฝึกจิตจนจับความโกรธ ความกลัว
ความขี้เกียจ ความยึดติด ความอยาก หรือความทุกข์ ได้ครั้งหนึ่งแล้ว
จะสามารถปล่อยปละละเลยจิตใจตัวเองไปได้ตลอดชีวิต
..
แท้จริงแล้ว..
พลังใจก็ไม่ต่างจากพลังกาย
มันไม่ได้คงที่อยู่ในระดับเดิมตลอดเวลา
แม้แต่ "แรงบันดาลใจ" นั้น
แท้จริงก็เป็นเพียงแค่ "ความรู้สึกดี" ที่มีขึ้นมีลงตามวันและเวลา
แต่การกระทำจนเป็น "นิสัย" ต่างหาก
ที่จะทำให้ความปรารถนาทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ตลอดรอดฝั่ง
..
แม้แต่บุคคลหรือครูบาอาจารย์ที่ฝึกจิตจนเชี่ยวชาญแล้ว
ก็ยังต้องเจียดเวลาให้ตัวเองอย่างน้อยวันละครั้ง
หรือบางท่านก็ไปปลีกวิเวกระยะยาวปีละ 2-3 ครั้ง
เพื่อรักษากล้ามเนื้อจิตใจให้แข็งแรงอยู่เสมอ
..
การหยุดความโกรธได้ครั้งหนึ่ง จะทำให้เราเก่งขึ้น
แต่มันไม่ได้แปลว่า..คุณจะไม่โกรธอีกเลย
และการปล่อยวางได้สำเร็จครั้งหนึ่ง
แม้จะทำให้คุณเป็นคนที่สามารถสร้างความสุขให้ตัวเองได้เร็วขึ้นในทันที
แต่มันก็ไม่ได้แปลว่า..คุณจะไม่ทุกข์ใจอีกเลย
..
การใช้สมาธิ ให้เข้าถึงสติ (ความรู้สึกตัวในปัจจุบัน)
ก็ไม่ต่างจากการอาบน้ำ ที่ควรทำทุกเช้าค่ำ
เพื่อล้างคราบสกปรกในวันนี้ ให้ออกไปจากใจ
..
การฝึกสมองด้วยสติและจินตนาการ
(ฝึกการอธิษฐานจิตในสิ่งที่ดี มองเห็นเป็นภาพสำเร็จเกิดขึ้นในใจ)
 ก็ไม่ต่างจากการออกกำลังกาย ที่ควรตั้งใจทำอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ
เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับความสุขและความสำเร็จของชีวิต
..
ไม่ว่าจะมีความรู้มากแค่ไหน
ก็ไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนพฤติกรรม
ถ้าคุณไม่เริ่มฝึกฝนมัน..อย่างสม่ำเสมอ
ให้สติเต็มรอบ อยู่ในปัจจุบันขณะเท่านั้น ..นั่นเอง

นิทานบันเทิงธรรม 035 เรื่อง หมอนวิเศษ



วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

“สิบคนเข้า ไม่เท่าคนหนึ่งออก”

..
สุภาษิต “สิบคนเข้า ไม่เท่าคนหนึ่งออก”
เมื่อพนักงานลาออก จากบริษัทฯ
การแก้ปัญหา ด้วยเงิน เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
เพราะปัญหานั้นไม่ได้อยู่ที่ .. "จำนวนเงิน"
แต่อยู่ที่การบริหารจัดการเงินที่ถูกต้อง
..
พนักงานทุกคน ต่างก็ต้องการเรียกร้องรายได้เพิ่มเติม ด้วยกันทั้งนั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดา
แต่เมื่อเพิ่มให้แล้ว ก็ต้องการเรียกร้องอีกอยู่ดี เนื่องจากได้ไปเท่าไหร่ ก็ไม่พอใช้
..
สาเหตุที่แท้จริง นั่นก็คือ พนักงานมีสุขภาพการเงิน ที่ไม่ดี
เป็นเพราะการบริหารงบประมาณในชีวิตของพนักงานผิดพลาดไปเพียงนิดเดียว
ฉะนั้นจึงควรให้แนวทางในการบริหารด้านการเงินกับพนักงานที่ง่ายดายและชัดเจน
เพื่อให้พนักงานมีอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง
ได้เห็นแนวทางของความเจริญก้าวหน้าที่เกิดจากตัวของเค้าเอง
ด้วยการจัดฝึกอบรมด้านการบริหารจัดการด้านความคิดและด้านการเงิน
ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหาการถูกดึงตัวด้วยเงินจากบริษัทอื่นแล้ว
ยังจะทำให้ทราบสาเหตุที่แท้จริง..ของการที่พนักงานลาออกไป.. ได้อีกด้วย.. นั่นเอง

นิทานบันเทิงธรรม 033 เรื่อง รอยตะปู


วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธรรมะ อริยสัจ 4 ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ


ธรรมะ เมื่อหลงสมมุติ ก็ยังคง หลงทุกข์ หลงสุข


“ความรู้สึก” คือ ส่วนลึกของ.. “ความคิด”

..
“ความรู้สึก” คือ ส่วนลึกของ.. “ความคิด”
เมื่อคิดบวก (Positive Thinking)
ก็ต้องเข้าให้ถึงความรู้สึกบวก (Positive Feeling) ด้วย
..
คุณโกหกความรู้สึกไม่ได้ ความรู้สึกหลอกลวงไม่เป็น
ส่วนความคิด..คุณหลอกได้ คำพูดคุณ ก็ยังสามารถโกหกได้
เครื่องจับเท็จที่ใช้กันในปัจจุบัน จึงไว้ใช้สำหรับจับความรู้สึก
ซึ่งส่งผลลัพธ์ออกมาทางร่างกาย อันเกิดมาจาก..ความรู้สึก..ส่วนลึกในจิตใจ
..
ความคิด มีความสามารถในการหลอกลวงตัวคุณเองก็ได้ หลอกลวงผู้อื่นก็ได้
นั่นก็เพราะความคิด ไม่ใช่ข้อเท็จจริง
ความคิดเป็นแค่เพียงมุมมองบางส่วน เป็นส่วนหนึ่ง จากหลายร้อยมุมมอง
ของสถานการณ์ เหตุการณ์ เรื่องราวที่เกิดขึ้น
ที่คุณได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น ได้ดู ได้สัมผัส ผ่านอายตนะทั้ง 5 (ตา หู จมูก ลิ้น กาย)
..
เมื่อคุณ คิดดี คิดบวก
คุณจะได้ผลลัพธ์ออกมาในแง่ดี แง่บวก อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ตามกฏแห่งกรรม
เพราะคุณแกล้งความคิด หลอกความคิดว่า
สิ่งนั้น เรื่องนั้น คนนั้นดี โดยที่ความจริงนั้นเป็นจริงบางส่วน เป็นเท็จบางส่วน
อันเกิดจากการทำความเข้าใจด้วยปัญญา ว่า
ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีทั้งเรื่องที่ดี และ มีทั้งเรื่องที่ไม่ดี อยู่ในตัวเดียวกัน
มนุษย์ทุกคนนั้น ต่างก็มีข้อดี และ ข้อไม่ดี อยู่ในคนๆเดียวกันทั้งนั้น
คน สัตว์ สิ่งของ ทุกสิ่งอย่าง ล้วนมีดีและมีไม่ดีในตัว
มีประโยชน์และมีโทษ อยู่ในตัวเดียวกัน อย่างแยกกันไม่ออก
..
ดังนั้น การเลือก วิถีทาง
ในขณะที่คุณยังอยู่ในโลกสมมุติ (ของไม่จริง) ที่เป็นโลกุตรธรรม (ของจริงทางโลก)
ก็เพียงให้ใช้ความคิดบวก ความคิดดี
ฝึกฝน จนกระทั่งเข้าถึง ความรู้สึกบวก รู้สึกดี ให้ได้
..
เพราะไม่ว่าอย่างไร ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณ ก็เป็นเพียงเรื่องสมมุติขึ้นทั้งนั้น
เราทุกผู้นาม จึงควร ใช้สมมุตินั้น ให้เป็น ..ประโยชน์.. ต่อโลก ต่อเรา
ด้วยการ คิดดี รู้สึกดี กับคน สัตว์ สิ่งของ และ สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย
..
“ไม่ว่าคุณจะคิดอะไร รู้สึกอย่างไร กับสิ่งนั้น
คุณเป็นแรกที่จะได้ผลลัพธ์ตอบกลับมาอย่างที่คิด อย่างที่รู้สึกนั้น ด้วยเช่นกัน”
เพราะนี่คือ กฎแห่งกรรมของโลก ที่เต็มไปด้วยสมมุติ
โลกที่ยังคงอยู่ในสังสารวัฎด้วยเหมือนกันทั้งนั้น .. นั่นเอง

มนุษย์เราทุกคน ต่างก็มีสมาธิ ติดตัวอยู่ทุกขณะจิตอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปนั่งหา..สมาธิ..จากที่ไหน

..
มนุษย์เราทุกคน ต่างก็มีสมาธิ ติดตัวอยู่ทุกขณะจิตอยู่แล้ว
ไม่จำเป็นต้องไปนั่งหา..สมาธิ..จากที่ไหน
เพราะสมาธิ มีอยู่แล้ว ไม่ว่าทำกิจการ งานอะไร
จะขับรถ จะดูหนัง ดูละคร กำลังนั่งทำงาน กำลังกิน กำลังเดิน กำลังนอน ฯลฯ
ต่างก็มี..สมาธิ..ติดตัวอยู่แล้วตลอดเวลา อันเป็นของธรรมดา เป็นของธรรมชาติ
..
เพียงแต่ คำพระ ท่านแนะนำให้ ใช้สมาธิ
ในการพิจารณา "สติ" ของตัวเองบ้างก็เท่านั้น
"สติ"คือความ.."รู้สึกตัว"..อยู่ตลอดเวลา ว่า..
ขณะนี้ คุณกำลังคิดอะไรอยู่ คุณกำลังทำอะไรอยู่ในปัจจุบัน ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้
..
แล้ว..ความสงบ..ก็จะเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
ซึ่งกว่า"..จิตจะรวม ใจจะสงบ.."
แต่ละคนก็จะใช้เวลาแตกต่างกันไป
ที่สำคัญคือ  ..
ต้องไม่ไปบังคับจิต..ให้พยายามสงบ จนทำให้จิตไม่สงบ
คือ ถ้าตอนนี้ใจ..ไม่สงบ ใจมันคิดเรื่อง โน่น นี่ นั่น
ก็เพียงแค่ให้จิต มันรู้ ว่า "ใจ"ตอนนี้ ..มันไม่สงบ มันกำลังคิดเรื่อง โน่น นี่ นั่น อยู่
แล้วตามดู ตามเห็น มันไป .. โดยไม่เอาอารมณ์ ไปเกี่ยวข้อง ไม่วิเคราะห์หาเหตุผลใดใด
..
พระพุทธองค์ ตรัสให้พุทธศาสนิกชนรับรู้มาแล้ว
ตั้งแต่เมื่อ 2500 กว่าปีก่อน ว่า ..
"สุขอื่นใด ยิ่งกว่าความสงบ นั้น ไม่มี"
ความสงบ มันเกิดขึ้น และมาจากไหน..
..
ก็หาได้จากใจเรา..เท่านั้น..นั่นเอง

ธรรมะ การละ รูป นาม ด้วยความเข้าใจ


วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

นิทานบันเทิงธรรม 032 เรื่อง ท่านรู้ได้อย่างไร


ความคาดหวัง กับการ ตั้งเป้าหมาย ต่างกัน ตรงที่ มีความสุข ความสบาย เป็นที่ตั้ง

..
ความคาดหวัง กับการ ตั้งเป้าหมาย
ต่างกัน ตรงที่ มีความสุข ความสบาย เป็นที่ตั้ง
..
ความคาดหมาย ถ้าไม่ได้ ใจจะแย่
ส่วนเป้าหมาย แม้ยังไม่ได้ ใจก็เป็นสุข
อยู่ทุกนาที ที่ได้ลงมือทำ
..
การทำบุญ ก็เช่นกัน
ได้ทำด้วยใจ เป็นไปเพื่อปลดพันธนาการ ปล่อยวางความยึดมั่น
จะพบความสุข ความสบาย ขึ้นทันควัน ในทันที
..
หากทำด้วยความคาดหวัง ใจจะรอคอย ผลลัพธ์กลับคืนมา
เกิดการไขว่คว้า ความยึดมั่น นั้นทันที
..
คนไม่เก่ง มีศักยภาพน้อย ไม่เคยด้อยค่า ถ้ามีเป้าหมาย
ความสำเร็จที่วาดไว้ ก็จะได้มา ตามที่ใจปรารถนาในสักวัน
..
คุณจึง ตั้งเป้าหมายได้ ด้วยการไม่ไปคาดหมาย
เบาเบา สบายสบาย กับ การใช้ชีวิต
สร้างความสนุก สร้างกฏแห่งกรรม นำใจ ให้มีความสุข
แล้วความสมหวัง ก็จะตามติดมาอย่างเป็นอัตโนมัติเช่นกัน .. นั่นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

นิทานบันเทิงธรรม 030 เรื่อง จีนกับใบมะขาม



ยอมรับความดี ยอมรับความไม่ดี เพราะนั่นคือความจริง ที่อยู่ในตัวเรา เพื่อความเข้าใจ และ ความสบายใจ

..
ใครกันในโลกนี้ ที่เป็นคนดีที่สุดในโลก
คำตอบในใจของคุณ คนนั้นเป็นใครกัน
ข้อเท็จจริง มีอยู่ว่า ..
คนเรา 1 คน ต่างก็มีทั้งส่วนที่ดี และส่วนที่ไม่ดี
ถ้ามีคนบอกว่าคุณไม่ดี คุณก็แค่ยอมรับ
ถ้ามีคนบอกว่าคุณดี คุณก็ต้องยอมรับ เช่นกัน
เฉกเช่นดั่ง ที่ใดมีแสงสว่าง ที่นั่นก็ต้องมีเงา
..
การที่คุณเห็นใครนิสัยไม่ดี แล้วคุณเอาความคิดไปวิพากษ์วิจารณ์เขา
ก็เท่ากับคุณกำลังเอาความไม่ดีของเขามาใส่ตัวทันที
การพูดถึงคนอื่นในแง่ไม่ดีนั้น นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะเป็นคนดีขึ้น
แต่มันกำลังสะท้อนให้เห็นมุมมองของคุณ
ในการเลือกมองบางมุมของคน จากมุมเพียงด้านเดียวของเขาคนนั้น
เปรียบการวิพากษ์วิจารณ์ได้เหมือนกับก้านไม้ขีดไฟ
ก่อนที่มันจะเผาอะไรให้สิ้นซากนั้น
ไม้ขีดไฟได้เผาตัวมันเองให้ไหม้เกรียมไปก่อน..เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
..
การหมั่นฝึกฝนให้ตนเองเป็นคนคิดดีให้เป็น เพื่อให้ได้เข้าถึงความรู้สึกที่ดี
จะทำให้พบกับความสุข และดึงดูดคนประเภทเดียวกันเข้ามาหาคุณ
เพราะคนดีดีทั้งหลาย เขาล้วนต้องการ
พบปะ พูดคุยกับคนที่มีความคิดดีๆ รู้สึกดีๆ เช่นกันกับเขาด้วย .. นั่นเอง

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

"คุณไม่ใช่คนแรกของโลกนี้ ที่พบเจออุปสรรค"

..
"คุณไม่ใช่คนแรกของโลกนี้ ที่พบเจออุปสรรค"
..
นับเป็นพันๆปีมาแล้ว เคยมีคน เจอปัญหาแบบคุณ
ทุกข์แบบคุณ เคยสูญเสียคนรัก ขาดความมั่นใจในแบบคุณ
เคยจนมาก่อน เคยแต่งตัวไม่หล่อ เป็นคนไม่สวย
รถไม่มี เงินไม่พอใช้ การศึกษาไม่สูง ฯลฯ แบบคุณมาแล้วทั้งนั้น
ที่กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ
เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก
..
เราต่างเหมือนกันทางด้านกายภาพ..(ภายนอก)
แต่มนุษย์ต่างกันทางด้านจิตใจ..(ภายใน)
..
คนสำเร็จ มีความรู้สึก นึกคิดแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ (โดยที่รู้ตัว)
คนส่วนใหญ่ มีความรู้สึก นึกคิด ที่ต้องการความล้มเหลว (โดยที่ไม่รู้ตัว)
..
คนส่วนใหญ่ เป็นคนเปิดโอกาสให้ความล้มเหลวเข้ามาเองทั้งนั้น
คนส่วนใหญ่ เป็นคนเชื้อเชิญความจนเข้ามาเองทั้งนั้น
คนส่วนใหญ่ เปิดโอกาสให้ความรู้สึกแย่แย่ ท้อแท้ เข้ามาทำลายชีวิตตัวเองทั้งนั้น
คนส่วนใหญ่ คิดเอง เออเอง ทั้งนั้น .. ว่าเค้าทำได้แค่นั้น ต้องเป็นได้แค่นี้ ..
..
ทั้งๆที่ในความเป็นจริง
คนที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก
เค้าก็ไม่ได้มีดี ไม่ได้เก่งอะไรไปกว่าคุณเลยสักนิด
เพียงแค่เค้ารู้สึกตัว ได้ก่อนใครใคร..ว่า
เค้าทำได้ รวยได้ มีได้ ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้
เค้าตระหนักรู้ได้ว่า..
ในโลกนี้ ความสำเร็จมันไม่มีเงื่อนไข ใดใดทั้งสิ้น
..
แค่เริ่มต้น..รู้จักใช้ความรู้สึกดีดีในการทำงาน
ด้วยการไม่ค้นหาเหตุผลใดใด ให้อึดอัดใจมากไป
ไม่คิด ไม่วิพากษ์วิจารณ์ใดใด ที่ทำให้ตัวเองนั้นทุกข์ทรมาน
ปล่อยให้ความรู้สึกที่เบาเบา สบายสบาย ว่างเปล่า มันเป็นไปตามธรรมชาติ
..
เค้ารู้จักพูดคุยกับเพื่อนที่ดีที่สุดของเค้าเอง
คนที่อยู่หน้ากระจก ที่นั่งอยู่ภายในใจของเค้า ซ้ำๆ ย้ำๆ ทุกวันๆ ว่า..
..
ฉันเป็นคนดี ฉันมีความสุข ฉันมีจิตใจที่เบิกบาน
ฉันมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ฉันสามารถกำหนดเป้าหมายของฉันเองได้
ฉันสามารถทำเป้าหมายในชีวิตของฉันให้เป็นจริงได้
..
นี่เป็นศาสตร์ แขนงเอก
ที่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ธรรมดา
ให้กลายเป็นคนที่มีความสุข ความสบายกาย สบายใจ ได้อย่างง่าย
..
คุณต้องเข้าถึงความรู้สึกนั้น ให้ได้
ความรู้สึกที่ คล้ายๆตอนที่คุณกอดพ่อ คุณกอดแม่ กอดผู้มีพระคุณ
ความรู้สึกที่อบอุ่น เข้าถึงความรู้สึกดี เหล่านี้ให้ได้
..
เพื่อให้คุณสัมผัสความรู้สึกของความสำเร็จได้ใกล้ชิดมากขึ้นไปอีก
ความสำเร็จที่ออกมาจากส่วนลึกของหัวใจอย่างแท้จริงของคุณ .. นั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ลงมือทำ ไปพร้อมกับความกลัว เพราะ ในชีวิตนี้ ไม่มีคำว่าพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์

..
รอให้พร้อม ค่อยลงมือทำ..!!
..
ไม่น่าเชื่อ.... คำๆ นี้ ได้ฉุดรั้งชีวิตของมนุษย์
ให้อยู่ห่างไกลออกจากความสำเร็จมานานนับสิบๆปี
คนส่วนใหญ่..ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า กับความท้าทายใหม่ๆ
คนส่วนใหญ่..ปล่อยให้ความกลัวมาฉุดรั้งตัวเองเอาไว้
และสร้างข้ออ้างกับตัวเองว่า......
"ฉันยังไม่รู้เรื่องนั้นเลย" "ฉันยังไม่มีสิ่งของแบบนั้นเลย" ฯลฯ
“ฉันไม่เก่งท่องหนังสือ” “ฉันไม่ได้เรียนหนังสือ”
“ฉันยังไม่รวย” “ฉันไม่สวย สวมเสื้อผ้ายังดูไม่ดี” “ฉันยังไม่มีรถยนต์หรูๆ” ฯลฯ
..
คนส่วนใหญ่..กลัวว่าถ้าเริ่มต้นทำอะไรไปบางอย่างแล้ว
มันจะไม่ดีพร้อม ไม่สมบูรณ์แบบ 100%
..
ทั้งหมดนั้น ก็เพื่อคำๆ เดียว..... "ความพร้อม"
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ.... คุณจะยังไม่กล้า ลงมือทำตามเป้าหมายในชีวิตสักที
..
แท้จริงแล้ว..... ความพร้อมเกิดจากอะไร?
..
คำตอบ ที่ตอบด้วย คำถาม ..ก็คือ..
..
เมื่อคุณมีเงินมากพอเหรอ..??
เมื่อคุณมีความรู้มากพอเหรอ..??
แล้วใจคุณเข้มแข็งมากพอเหรอ..??
แล้วถึงเมื่อนั้น... ความพร้อมจึงจะบังเกิดขึ้นเหรอ ..??
..
เหล่านี้ ไม่ใช่เงื่อนไขของความสำเร็จเลยสักนิด
มันเป็นเพียงความคิดไปเอง แค่คิดไปเองฝ่ายเดียวเท่านั้น
..
คนส่วนใหญ่..
เชื่อคำพูดคนอื่นมากกว่าเชื่อตัวเอง
เรียกร้องจากคนอื่น ไปเรื่อย เรื่อย
จดจด จ้องจ้อง รอคอยฟังเสียงสนับสนุน อยู่ร่ำไป
เพื่อขอให้ผู้คนเห็นด้วยในสิ่งที่คุณต้องการจะทำ
..
คิดถึงภาพโซ่เส้นใหญ่ ที่มันผูกคุณไว้กับคำบางคำ ประโยคบางประโยค
ใบหน้าคนนั้น คนนี้ ที่ล็อคคุณไว้ แล้วบอกว่า คุณต้องอย่างนั้นอย่างนี้
..
ความจริงแล้ว เรื่องราวในชีวิตของคุณ คุณเป็นคนตั้งกฎ ขึ้นมาเอง
มันไม่ใช่ข้อเท็จจริง ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยสักนิด
คุณเป็นคนตีความ และ แปลความหมายเอาเองเพียงลำพัง
..
ฉะนั้นถ้าคุณตีความสถานการณ์ในชีวิตให้ดี ชีวิตคุณก็จะมีความสุข
แต่ถ้าคุณแปลความหมายในชีวิตให้ร้ายๆ ชีวิตคุณก็จะพบกับหายนะ .. นั่นเอง
..
ลงมือทำ ไปพร้อมกับความกลัว
เพราะ ในชีวิตนี้ ไม่มีคำว่าพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์

นิทานบันเทิงธรรม 028 เรื่อง ลิงกับลา



คุณมีความสุขมากที่สุดได้..โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร หรือ อะไรเลย

..
คุณมีความสุขมากที่สุดได้..โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร หรือ อะไรเลย
การกระทำอย่างแรกเริ่ม ที่คุณควรทำ คือ .." ทำใจ "  
เมื่อ"ทำใจ"ให้ดี
แววตา สีหน้า ท่าทาง จะเปล่งประกายงดงาม
รวมทั้งคำพูด การกระทำ จะดูดี มีพลัง
ส่งผลลัพธ์กลับคืนมาเป็นเรื่องราวอันแสนวิเศษ
..
เพียงแค่ "หยุดคิด"  แล้วพิจารณาให้เห็นด้วยปัญญา ว่า..
ความทุกข์นั้น เป็นเพียงแค่สับเซตของอารมณ์
มันไม่ใช่ของจริง มันไม่มีอยู่จริง แถมยังไม่มีตัวตนอีกต่างหาก
ความคิดลบ ก็ไม่ต่างจาก กองอุจจาระ
เมื่อไหร่คิดลบ คิดเรื่องทุกข์ ก็เท่ากับว่า
คุณกำลังโกยขยะ กวักกองอุจจาระ มาเข้าใส่ตัวเอง
..
ทำจิตให้เป็นสุข ทำใจให้เห็นภาพที่สวยงาม
ให้จิตใจลบเลือนภาพร้ายๆ ถ้อยคำ ดูผิดของผู้คน
ที่ทั้งตั้งใจ และ ไม่ได้ตั้งใจ พลั้งปากออกมาอย่างนั้น
คุณเพียงทำหน้าที่ "หยุดคิด" ถึง วาทะเหล่านั้นให้สิ้นไปจากใจ
..
อย่าเชื่อ ถ้าหาก ความเชื่อนั้น
พันธนาการคุณไว้ กับชีวิตแบบเดิมเดิม
คุณเป็นได้ อย่างที่คุณอยากจะเป็น
คุณรุ่งโรจน์ได้ เท่าที่ใจคุณปรารถนา ..
ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม มีคำพูดแว่วมาในใจ
หรือจากใครคนใด บอกว่า
เว่อร์ไป ทำไม่ได้หรอก เป็นไปไม่ได้หรอก
ก็จงอย่าเสียเวลา เอาความคิดพญาอินทรีย์ ไปคุยกับนกกระจอก
เพราะ ความคิดที่ยิ่งใหญ่ จะถูกทำลายสิ้นไป ในพริบตา
..
พลังแห่งคำพูดที่ดูถูกตัวคุณเองนั้นทรงพลัง
พลังแห่งคำพูดที่ชื่นชมตัวคุณเองนั้นก็ทรงอำนาจ เช่นกัน
พลังคำพูดนั้นถูกต้อง และ แม่นยำ เสมอ
พลังคำพูดของคุณ จึงเป็นประกาศิต
เพราะมันเป็นคำพยากรณ์ ชีวิตทั้งชีวิตของคุณได้อย่างดีที่สุด .. นั่นเอง

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เปิดโอกาส เปิดอิสรภาพ ให้ตัวคุณเองง่ายๆ

..
Clear ความคิดของคุณ
ด้วยการพูดคุยกับคนในกระจกว่า
เป้าหมายในชีวิต ลิขิตได้เอง
มันง่าย เท่าที่คุณต้องการให้มันง่าย
มันยาก เท่าที่คุณต้องการให้มันยาก
มันสบายได้ เท่าที่เราอยากให้มันสบาย
..
คุณถูกตั้ง เงื่อนไข และ กฏเกณฑ์ กติกา อยู่ทุกวัน
ไม่ต่างจากคนที่อยู่ในเรือนจำเลยสักนิด
โดยมักใช้รูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่ในสังคม
มายัดเยียดให้คุณเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่คุณเลยสักนิด
..
การเรียนรู้ ควรถูกนำมาประยุกต์ นำเอาส่วนดีของคนบนโลก
ผสมผสาน คลุกเคล้า ความเป็นตัวคุณเข้าไป ให้กลมกล่อม
ดีไซน์ชีวิตที่เป็นปัจเจก เอกลักษณ์เฉพาะ
ให้เป็นไปในแบบฉบับของคุณอย่างแท้จริง
..
แค่คุณต้องเชื่อ (เชื่อมั่น / เชื่อใจ ) โดยไร้เหตุผลใดๆทั้งสิ้น
อย่างไม่ต้องหาข้อกังขา มาทำให้กังวล กับตัวเอง
อย่าให้ข้ออ้าง มาเป็นข้อกำหนด กักกันคุณไว้จากโลกความเป็นจริง
ถอนรากของความคิดเดิมๆ ทิ้งไป ( ฉันไม่ดี ฉันไม่เก่ง ฉันไม่ใช่ ฯลฯ)
ปลูกรากความคิดใหม่ๆให้ต้นความสำเร็จ เจริญงอกงาม (ฉันดี ฉันเก่ง ฉันทำได้ ฯลฯ)
ตั้ง"เป้าหมายในชีวิต"ด้วยตัวคุณเอง .. แล้วลุยมัน ตั้งมั่น ให้สะใจ
..
เมื่อไหร่ก็ตาม ที่คุณ "ไม่มีข้อจำกัด" คุณจะกลายเป็นคน"ไร้ขีดจำกัด" .. ได้อย่างยอดเยี่ยม ..นั่นเอง

นิทานบันเทิงธรรม 027 เรื่อง พ่อถามซ้ำ


นิทานบันเทิงธรรม 026 เรื่อง เลือกใครดี


ความเครียด เป็นอุปสรรค ที่ไม่มีตัวตน

..
..
แม้คนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก
อีกทั้งคนเก่งที่สุดในโลก
..
ก็ไม่ได้เครียด ก็ไม่ได้กังวล กับการทำงาน เลยสักนิด
คนเก่ง คนฉลาด เขาจะใช้ชีวิตสบายๆ ทำงานด้วยใจสบายๆ
..
เพราะเขารู้ได้ด้วยปัญญา ว่า
ความเครียด ไม่ได้ช่วยให้แก้ไขปัญหาได้
ความเครียด เป็นอุปสรรคที่สร้างขึ้นมาเอง (อุปาทาน)
..
แม้คนพิการ คนจน ก็ไม่ได้เครียดกันทุกคน
คนพิการ คนจน (ที่มีปัญญา)
ต่างก็ใช้ชีวิต สุขสบายใจ ได้เป็นอย่างดี ด้วยเช่นกัน
..
เพราะ หนทางความสบาย ความสุข
อุบัติขึ้นที่ใจของคนที่มีปัญญา
เขาใช้ชีวิตด้วยความสบายใจทั้งนั้น ..นั่นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

นิทานบันเทิงธรรม 004 เรื่อง ความสุขอยู่ที่ใด


ตนเป็นที่พึ่งแห่งความสุขของตนอย่างแท้จริง

..
ธรรมะข้อที่ว่า "อัตตาหิอัตโนนาโถ"
"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" นั้น
..
แสดงให้เห็นความจริงที่ว่า..
ความสุขของคนเราทุกคน
เราไม่ควรเอาความสุขของเรา ของตัวเรา
ไปฝากไว้กับใครคนอื่น คนใด หรือกับสิ่งอื่น สิ่งใดเลย
..
คนเราทุกข์หรือสุข เพราะ ต้องการได้สิ่งที่ชอบให้มี "ขนาด" ใหญ่ขึ้น
คนเราทุกข์หรือสุข เพราะ ต้องการได้สิ่งที่ชอบให้มี "จำนวน" มากขึ้น
คนเราทุกข์หรือสุข เพราะ ต้องการได้สิ่งที่ชอบให้มี "ปริมาณ" เพิ่มขึ้น
คนเราทุกข์หรือสุข เพราะ ต้องการได้สิ่งที่ชอบให้มี "สีสรร" หลากหลายขึ้น
..
เหมือนกินอาหาร ก็ต้องกินให้มาก ..
เครื่องประดับ เพชร นิล จินดา
ก็อยากให้มีจำนวนมากขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น สีสรรหลากหลาย
ทรัพย์สิน เงินทอง รถยนต์
ก็ต้องการจำนวน และ ปริมาณ ให้มากขึ้น เป็นต้น
..

คนส่วนใหญ่ มักจะฝากความสุข ของตัวเอง ไว้กับสิ่งเหล่านี้

ใช้ ขนาด ปริมาณ จำนวน สีสรร ของ สิ่งของต่างๆเหล่านี้ เป็นที่พึ่ง

ทำให้ต้องวิ่งวน ดิ้นรน กดดันตัวเอง เพื่อแสวงหาสิ่งที่คิดว่า นั่นคือความสุข
..

แต่หากเข้าใจในธรรมะ ด้วยใจตัวเองแล้ว ก็จะเห็นแจ้งด้วยปัญญา ว่า ..
ตนเป็นที่พึ่งแห่งความสุขของตนอย่างแท้จริงโดยสมบูรณ์อยู่แล้ว .. นั่นเอง

นิทานบันเทิงธรรม 003 เรื่อง ตำนานขนมครก


อโหสิกรรม ทำ(ธรรม)ให้พ้นทุกข์ ทั้งเราและเขา

..
คนเรานั้น แม้เราจะชอบ จะรัก
หรือจะไม่ชอบ ไม่รัก ..
ไม่ว่าเราจะโกรธ เกลียด
ไม่ชอบ ไม่พอใจ เขาเหล่านั้นยังไง หรือไม่ยังไงก็ตาม
..
เราก็ไม่อาจอธิษฐาน หรือ ไม่อาจห้ามให้เขาเหล่านั้น
ไม่ทุกข์ ไม่ร้อน ไม่หนาว ไม่เหนื่อย ไม่เจ็บ ไม่ทรมาน
ไม่ตายลงไป ได้เลย
..
เราแทบไม่จำเป็นต้องไปจัดการอะไรเลย หรือไปคิดทำอะไรเลยสักนิดเดียว
..
เพราะความทุกข์ ความทรมาน ความร้อนกาย ความร้อนใจ
มันก็ติดอยู่กับตัวพวกเขาเหล่านั้นกันทุกคนอยู่แล้ว
ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวเราเอง
..
คนเรา คนอื่น หรือ แม้แต่ตัวเราเอง
มันช่างน่าสงสารเหลือเกิน
ก็ทุกข์มัน ก็อยู่กับเรา แล้วทุกข์มันก็อยู่กับเขาเหมือนกัน เช่นกันทุกคนไม่มีเว้น
..
เราจึงต้องเมตตาตัวเอง สงสารตัวเองให้มาก ให้ดีก่อนเป็นลำดับแรก
แผ่เมตตาให้กับตัวเอง
..
และแผ่เมตตาจิต ถึงสรรพสิ่ง ถึงคนอื่นๆไปด้วย พร้อมๆกัน
..
ด้วยความเข้าใจธรรมข้อนี้ .. (อโหสิกรรม) ด้วยตัวเอง
..
เราจะรู้สึก สบายใจยังไง บอกไม่ถูก ด้วยความจริงแท้แน่นอน